คาร์บูเรเตอร์ถังพ่นยาแบบ Diaphragm vs Float ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี

💡 ความแตกต่างระหว่างคาร์บูเรเตอร์ Diaphragm vs Float

🔹 1. คาร์บูเรเตอร์แบบ Diaphragm

ใช้แผ่นยางยืดหยุ่น (diaphragm) ควบคุมการไหลของน้ำมัน โดยไม่มีลูกลอย

ข้อดี:

• ทำงานได้ดีแม้อยู่ใน พื้นที่เอียง, ลาดชัน หรือ เคลื่อนไหวตลอดเวลา

• ไม่ต้องกังวลว่าน้ำมันจะไหลผิดทิศทาง

• ทนต่อการสั่นสะเทือนมากกว่า

• เหมาะกับ เครื่องพ่นยาแบบสะพายหลัง หรือเครื่องพ่นแบบเคลื่อนที่

ข้อสังเกต:

• โครงสร้างซับซ้อนกว่าบ้าง ซ่อมยากกว่านิดหน่อย

• ต้องใช้แผ่น diaphragm คุณภาพดีเพื่อป้องกันการรั่ว

🔸 2. คาร์บูเรเตอร์แบบ Float (ลูกลอย)

ใช้ระบบลูกลอยควบคุมระดับน้ำมันในห้องลิ้นปีกผีเสื้อ

ข้อดี:

• โครงสร้างง่ายกว่า ซ่อมและล้างสะดวก

• ราคาถูกกว่าทั่วไป

• เหมาะกับงานที่ตั้งเครื่องนิ่งๆ เช่น เครื่องพ่นยาแบบตั้งพื้น

ข้อสังเกต:

• เมื่อเอียงหรือขยับแรงๆ ลูกลอยอาจทำงานผิดพลาด ทำให้น้ำมันขาดหรือล้น

• ใช้ในพื้นที่ขรุขระหรือไม่เรียบอาจมีปัญหา

📊 ตารางเปรียบเทียบ

คุณสมบัติ	Diaphragm	Float (ลูกลอย)
การทำงานในพื้นที่เอียง	✅ ดีเยี่ยม	❌ มีโอกาสรวน
ความทนต่อแรงสั่นสะเทือน	✅ สูง	❌ ต่ำกว่า
การดูแลรักษา	❌ ซับซ้อนกว่านิดหน่อย	✅ ง่ายกว่า
ราคาคาร์บูเรเตอร์	❌ แพงกว่าเล็กน้อย	✅ ถูกกว่า
เหมาะกับเครื่องประเภท	สะพาย, เคลื่อนไหวบ่อย	ตั้งพื้น, ใช้นิ่งๆ

✅ สรุป: เลือกแบบไหนดี?

• หากคุณใช้งาน เครื่องพ่นยาแบบสะพายหลัง, ใช้งานในพื้นที่ ลาดชัน, เคลื่อนไหวตลอดเวลา → แนะนำ คาร์บูเรเตอร์แบบ Diaphragm

• หากคุณใช้ เครื่องตั้งกับพื้น, ใช้งานบนพื้นที่เรียบ, ไม่ได้ขยับบ่อย → Float จะตอบโจทย์ และ ประหยัดค่าใช้จ่าย

หากคุณต้องการเลือกซื้อเครื่องพ่นยา หรือต้องการคำแนะนำเฉพาะรุ่น ผมสามารถช่วยจัดตารางเปรียบเทียบสินค้าหรือแนะนำรุ่นที่ใช้ คาร์บูเรเตอร์ Diaphragm / Float ให้เหมาะกับการใช้งานได้เช่นกันครับ ✅